เมนู

อกุศลวิบากจิตดวงที่ 2-3-4-5-6


[418] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน ?
โสตวิญญาณ เป็นวิบาก สหรคตด้วยอุเบกขา มีเสียงเป็นอารมณ์
เกิดขึ้น ฯลฯ ฆานวิญญาณ เป็นวิบาก สหรคตด้วยอุเบกขา มีกลิ่นเป็น
อารมณ์เกิดขึ้น ฯลฯ ชิวหาวิญญาณ เป็นวิบาก สหรคตด้วยอุเบกขา มีรส
เป็นอารมณ์เกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณเป็นวิบาก สหรคตด้วยทุกข์ มีโผฏฐัพพะ
เป็นอารมณ์เกิดขึ้น ฯลฯ มโนธาตุ เป็นวิบาก สหรคตด้วยอุเบกขา มีรูป
เป็นอารมณ์ ฯลฯ มีโผฏฐัพพะเป็นอารมณ์ หรือปรารภอารมณ์ใด ๆ เกิดขึ้น
เพราะอกุศลกรรม อันได้ทำไว้แล้ว ได้สั่งสมไว้แล้ว ในสมัยใด ในสมัยนั้น
สังขารเกิดเพราะอกุศลมูลเป็นปัจจัย วิญญาณเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย นาม
เกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย อายตนะที่ 6 เกิดเพราะนามเป็นปัจจัย ผัสสะ
เกิดเพราะอายตนะที่ 6 เป็นปัจจัย เวทนาเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย อธิโมกข์
เกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย ภพเกิดเพราะอธิโมกข์เป็นปัจจัย ชาติเกิดเพราะ
ภพเป็นปัจจัย ชรามรณะเกิดเพราะชาติเป็นปัจจัย ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์
ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้.

อกุศลวิบากจิตดวงที่ 7


[419] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน ?
มโนวิญญาณธาตุ เป็นวิบาก สหรคตด้วยอุเบกขา มีรูปเป็นอารมณ์
ฯลฯ มีธรรมเป็นอารมณ์ หรือปรารภอารมณ์ใด ๆ เกิดขึ้น เพราะอกุศลกรรม
อันได้ทำไว้แล้ว ได้สั่งสมไว้แล้ว ในสมัยใด ในสมัยนั้น สังขารเกิดเพราะ
อกุศลมูลเป็นปัจจัย วิญญาณเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย นามเกิดเพราะวิญญาณ

เป็นปัจจัย อายตนะที่ 6 เกิดเพราะนามเป็นปัจจัย ผัสสะเกิดเพราะอายตนะที่
6 เป็นปัจจัย เวทนาเกิดเพราะนามเป็นปัจจัย ผัสสะเกิดเพราะอายตนะที่ 6
เป็นปัจจัย เวทนาเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย อธิโมกข์เกิดเพราะเวทนาเป็น
ปัจจัย ภพเกิดเพราะอธิโมกข์เป็นปัจจัย ชาติเกิดเพราะภพเป็นปัจจัย ชรามรณะ
เกิดเพราะชาติเป็นปัจจัย ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการ
อย่างนี้.
[420] ในปัจจยาการเหล่านั้น สังขารเกิดเพราะอกุศลมูลเป็นปัจจัย
เป็นไฉน ?
การคิดอ่าน กิริยาที่คิดอ่าน ความคิดอ่าน อันใด นี้เรียกว่า สังขาร
เกิดเพราะอกุศลมูลเป็นปัจจัย.
[421] วิญญาณเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย เป็นไฉน ?
จิต มโน มานัส ฯลฯ มโนวิญญาณธาตุที่สมกัน อันใด นี้เรียกว่า
วิญญาณเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย.
[422] นามเกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย เป็นไฉน ?
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ นี้เรียกว่า นามเกิดเพราะ
วิญญาณเป็นปัจจัย.
[423] อายตนะที่ 6 เกิดเพราะนามเป็นปัจจัย เป็นไฉน ?
จิต มโน มานัส ฯลฯ มโนวิญญาณธาตุที่สมกัน อันใด นี้เรียกว่า
อายตนะที่ 6 เกิดเพราะนามเป็นปัจจัย.
[424] ผัสสะเกิดเพราะอายตนะที่ 6 เป็นปัจจัย เป็นไฉน ?
การกระทบ กิริยาที่กระทบ กิริยาที่ถูกต้อง ความถูกต้อง อันใด
นี้เรียกว่า ผัสสะเกิดเพราะอายตนะที่ 6 เป็นปัจจัย.

[425] เวทนาเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย เป็นไฉน ?
ความสบายทางใจก็ไม่ใช่ ความไม่สบายทางใจก็ไม่ใช่ ความเสวย
อารมณ์ที่ไม่ทุกข์ไม่สุขอันเกิดแต่เจโตสัมผัส กิริยาเสวยอารมณ์ ที่ไม่ทุกข์ไม่สุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส อันใด นี้เรียกว่า เวทนาเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย.
[426] อธิโมกข์เกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย เป็นไฉน ?
การตัดสินใจ กิริยาที่ตัดสินใจ ความตัดสินใจในอารมณ์นั้น อันใด
นี้เรียกว่า อธิโมกข์เกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย.
[427] ภพเกิดเพราะอธิโมกข์เป็นปัจจัย เป็นไฉน ?
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ เว้นอธิโมกข์
นี้เรียกว่า ภพเกิดเพราะอธิโมกข์เป็นปัจจัย.
[428] ชาติเกิดเพราะภพเป็นปัจจัย เป็นไฉน ?
ความเกิด ความเกิดพร้อม ความบังเกิด ความบังเกิดจำเพาะ ความ
ปรากฏ แห่งธรรมเหล่านั้น อันใด นี้เรียกว่า ชาติเกิดเพราภพเป็นปัจจัย.
[429] ชรามรณะเกิดเพราะชาติเป็นปัจจัย เป็นไฉน ?
ชรา 1 มรณะ 1
ในชราและมรณะนั้น ชรา เป็นไฉน ?
ความคร่ำคร่า ภาวะที่คร่ำคร่า ความเสื่อมสิ้นอายุ แห่งธรรมเหล่านั้น
อันใด นี้เรียกว่า ชรา
มรณะ เป็นไฉน ?
ความสิ้นไป ควานเสื่อมไป ความแตก ความทำลาย ความไม่เที่ยง
ความหายไป แห่งธรรมเหล่านั้น อันใด นี้เรียกว่า มรณะ

ชราและมรณะดังกล่าวมานี้ นี้เรียกว่า ชรามรณะเกิดเพราะชาติเป็น
ปัจจัย.
[430] คำว่า ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วย
ประการอย่างนี้
นั้น ได้แก่ ความไปร่วม ความมาร่วม ความประชุม ความ
ปรากฏแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้ ด้วยเหตุนั้น จึง
เรียกว่า ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้.
อกุศลมูลกวิบากนิเทศ จบ
อภิธรรมภาชนีย์ จบ
ปัจจยาการวิภังค์ จบบริบูรณ์

อกุศลมูลวิบากนิเทศ

(บาลีข้อ 416)

ว่าด้วยอกุศลวิบากจิต 7


บัดนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประสงค์จะทรงแสดงปัจจยาการแม้ใน
อัพยากฤตทั้งหลาย โดยนัยอื่นอีกทีเดียว จึงทรงเริ่มคำมีอาทิว่า กตเม ธมฺมา
อพฺยากตา
ธรรมเป็นอัพยากฤตเป็นไฉน ดังนี้.
ในพระบาลีนั้น คำว่า เพราะกุศลมูลเป็นปัจจัย แม้นี้ ตรัส
หมายเอาความเป็นอุปนิสสยปัจจัย จริงอยู่ กุศลมูลย่อมเป็นปัจจัยแก่กุศลวิบาก
และอกุศลมูลเป็นอุปนิสสยปัจจัยแก่อกุศลวิบาก แต่ไม่ควรกล่าวถึงกรรมปัจจัย
ที่เกิดต่างขณะกันทีเดียว ฉะนั้น ปัจจัยที่เป็นกุศลมูล และอกุศลนี้ จึงเป็น
ปัจจัย ด้วยอุปนิสสยปัจจัย และกรรมปัจจัยที่เกิดต่างขณะกัน ด้วยเหตุนั้นแหละ